พัฒนาตัวเอง : เรียนรู้จาก อีลอน มัสก์ความสำเร็จจากความแน่วแน่ในวิสัยทัศน์

คุณสามารถพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น ด้วยการเรียนรู้จากผู้คนที่ประสบความสำเร็จ บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้เกี่ยวกับความสำเร็จของ อีลอน มัสก์ ซึ่งคุณสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้พัฒนาตัวเองได้อีกด้วย

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เป็นชื่อที่ได้ยินแล้วมักจะเอาไปผูกกับเรื่องนวัตกรรม, ความกล้าในการลงทุน และความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคต  ถ้าดูตั้งแต่ SpaceX ไปจนถึง Tesla จะพบว่าบริษัทของเขาไม่เพียงแต่จะไปเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนการรับรู้ของเราเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นไปได้อีกด้วย คำถามที่เกิดขึ้นคือ เราสามารถเรียนรู้อะไรจาก อีลอน มัสก์ ได้บ้าง แม้ว่าจะมีบทเรียนมากมายให้เรียนรู้จากการดำเนินชีวิตของเขา  แต่สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นคือเรื่องพลังแห่งวิสัยทัศน์ที่แน่วแน่

เรียนรู้จาก อีลอน มัสก์ : ความสำเร็จที่เกิดจากความแน่วแน่ในวิสัยทัศน์

เครดิตภาพ : วาดโดย AI MidJourney, ออกแบบคำสั่งวาดโดย กติกา สายเสนีย์

จุดกำเนิดของ อีลอน มัสก์

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เกิดที่เมืองพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ในปี พ.ศ. 2514 เขาเริ่มฉายแววให้เห็นถึงความสนใจในด้านเทคโนโลยีและการเป็นผู้ประกอบการ ตั้งแต่เรียนรู้การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง ไปจนถึงเปิดตัวธุรกิจแรกในขณะที่ยังเป็นวัยรุ่น โดย อีลอน มัสก์ แสดงให้เห็นถึงความอยากรู้อยากเห็นแบบไม่ลดละและมีความหลงใหลในนวัตกรรม อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ความเก่งกาจทางเทคโนโลยีของเขาเท่านั้นที่ทำให้เขาแตกต่าง แต่เป็นเรื่องของความสามารถของเขาในการจินตนาการถึงอนาคตที่แตกต่างไปจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง

ความแน่วแน่ในวิสัยทัศน์ของตน

หากมีสิ่งหนึ่งที่ต้องเรียนรู้จาก อีลอน มัสก์ นั่นก็คือพลังแห่งวิสัยทัศน์ที่แน่วแน่  ด้วยการมีวิสัยทัศน์แข็งแรงพอที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้าแม้จะมีความท้าทายอยู่นับไม่ถ้วน วิสัยทัศน์ของ อีลอน มัสก์ นั้นยิ่งใหญ่และมองไปสู่อนาคตเสมอ เช่น การตั้งเป้าหมายว่าอยากให้มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตไปอาศัยอยู่บนดาวอังคาร, ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นกระแสหลัก และปฏิวัติภาคส่วนพลังงานด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียน  วิสัยทัศน์ของเขาไม่ใช่แค่จินตนาการ แต่เป็นเป้าหมายที่จับต้องได้ ซึ่งชี้นำทุกการตัดสินใจของเขา

อีลอน มัสก์ มีความเชื่อบนวิสัยทัศน์ของเขาอย่างมาก จนเขายอมเสี่ยงโดยการทุ่มเงินส่วนตัวทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามี เพื่อให้มันประสบผลสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเทสลาใกล้จะล้มละลายในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี พ.ศ. 2551 อีลอน มัสก์ ได้นำเงินของตัวเองมาลงทุนเพิ่มเพื่อรักษาบริษัทให้อยู่รอด

เคยมีคำกล่าวที่โด่งดังของ อีลอน มัสก์ ว่า "หากสิ่งต่างๆ ไม่ล้มเหลว แสดงว่าคุณยังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้ไม่ดีพอ" ข้อความนี้แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่แน่วแน่ในวิสัยทัศน์ของเขา โดยมองว่าการยอมรับความล้มเหลวเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่จำเป็น ต่อการบรรลุเป้าหมายที่ทะเยอทะยานของเขา

วิสัยทัศน์ที่ทำได้จริงของอีลอน มัสก์ : SpaceX และ Tesla

SpaceX และ Tesla เป็นเครื่องยืนยันถึงความกล้าหาญบนวิสัยทัศน์ของ อีลอน มัสก์ โดยสำหรับ SpaceX นั้น เป้าหมายของ อีลอน มัสก์ คือการทำให้สิ่งมีชีวิตสามารถไปใช้ชีวิตอยู่ได้บนดาวเคราะห์ที่หลากหลาย เพื่อให้แน่ใจว่ามนุษยชาติจะอยู่รอดได้ ในตอนแรกนั้น วิสัยทัศน์นี้ของ อีลอน มัสก์ ถูกมองด้วยความสงสัยและแม้แต่การถูกเยาะเย้ยถากถางจากบุคคลภายนอกว่ามันจะสามารถทำได้จริงหรือ อย่างไรก็ตาม SpaceX ได้ปฏิวัติการเดินทางในอวกาศ โดยกลายเป็นบริษัทเอกชนแห่งแรกที่ส่งยานอวกาศไปยังสถานีอวกาศนานาชาติได้สำเร็จ

เช่นเดียวกับ Tesla, อีลอน มัสก์ จินตนาการถึงโลกอนาคตที่ยานยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นเรื่องปกติโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยเมื่อตอนที่เขาก่อตั้งบริษัทเทสลาขึ้นมา ตอนนั้นรถยนต์ไฟฟ้ายังถูกมองว่าใช้งานไม่ได้จริง และเป็นธุรกิจที่ยังไม่มีกำไร ถึงแม้จะมีเสียงคัดค้านจากคนรอบข้าง อีลอน มัสก์ ก็ยืนหยัดเชื่อในวิสัยทัศน์ของเขา และทุกวันนี้ Tesla ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำในยานยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังกระตุ้นให้อุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งหมดเปลี่ยนแปลงไปสู่การเดินทางและการขนส่งแบบยั่งยืน

บทสรุป: วิสัยทัศน์ที่แน่วแน่เป็นตัวกำหนดอนาคต

โดยสรุปแล้ว หากมีบทเรียนหนึ่งที่เราสามารถเรียนรู้เพื่อใช้พัฒนาตัวเองได้จาก อีลอน มัสก์ นั่นคือพลังของวิสัยทัศน์ที่แน่วแน่ ด้วยความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ของ อีลอน มัสก์ ในการจะบรรลุเป้าหมายของเขา แม้จะมีอุปสรรคมากมายและความพ่ายแพ้หลายครั้งหลายครา แต่จากสิ่งที่เขาทำนั้น ไม่เพียงแค่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม แต่ยังกำหนดอนาคตของเราด้วย เรื่องราวของเขาสอนเราว่า เมื่อเราต้องการกำหนดวิสัยทัศน์ อย่าปล่อยวิสัยทัศน์ของเราถูกจำกัดโดยสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่ให้มองไปที่สิ่งที่มันอาจจะเป็นไปได้แทน

Previous
Previous

รู้จักกับ Land Rover Defender ตำนานแห่งรถยนต์ออฟโรด

Next
Next

รู้ไหมว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นหนึ่งในผู้ปล่อยมลพิษมากที่สุดในโลก