ช่วงที่ผ่านมาเราเจอข่าวไฟไหม้ป่ากันแบบน่าตกใจ เช่นที่ออสเตรเลีย หรือแม้กระทั่งที่ภูกระดึงในบ้านเรา ไฟป่าในแต่ละที่กินพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาล ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเพราะเราต้องสูญเสียทั้งชีวิตสัตว์ป่าและต้นไม้อีกมากมาย กว่าจะฟื้นตัวก็ใช้เวลานานมากเลยทีเดียว

เมื่อพวกเราไปตั้งแคมป์ การตั้งแคมป์ไฟก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของการออกแคมป์เลยทีเดียว ดังนั้นเราจึงอยากเขียนถึงคำแนะนำในการก่อแคมป์ไฟอย่างปลอดภัย เราจะได้ป้องการการเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น และมีป่าสวยๆ อยู่คู่เราไปนาน

1. ตรวจสอบกับเจ้าของสถานที่ว่าอนุญาตให้ก่อไฟได้หรือไม่

สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือควรเช็คกับสถานที่ที่เราไปตั้งแคมป์ก่อนว่า สามารถให้ก่อกองไฟได้หรือไม่ ก่อไฟกับพื้นได้ไหม หรือจุดไฟได้แต่ต้องอยู่ในภาชนะก่อไฟ เช่นเตา เป็นต้น

2. มีแหล่งน้ำใกล้เคียงกับสถานที่ก่อไฟหรือไม่

ถ้าสถานที่อนุญาตให้ก่อไฟได้ สิ่งที่เราควรทำก็คือจัดเตรียมแหล่งน้ำให้อยู่ใกล้กองไฟที่เราจะก่อ เช่นแถวนั้นมีบ่อน้ำ หรือก็อกน้ำใกล้ ๆ ไหม ให้เราตักน้ำมารอไว้ในปริมาณที่เยอะพอที่จะดับเปลวไฟได้ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน บางท่านอาจจะบอกว่าเราใช้ทรายกลบเปลวไฟก็ได้ ก็จริงอยู่ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าการใช้ทรายเพื่อดับไฟ ใช้เวลานานกว่าดับไฟด้วยน้ำมากเลยครับ

3. ก่อไฟที่ควบคุมได้

เมื่อต้องการจะก่อกองไฟ ให้ลองมองหาก่อนว่า มีสถานที่ก่อกองไฟที่จัดไว้ให้อยู่แล้วหรือไม่ บางสถานที่มีการสร้างจุดก่อกองไฟไว้ให้แล้ว บางที่เอาอิฐหรือก้อนหินก่อไว้ให้เป็นวงกลมสำหรับการก่อกองไฟโดยเฉพาะ ถ้ามีแบบนั้นอยู่แล้ว ให้เราเลือกก่อกองไฟที่จุดเหล่านั้นก่อนครับ

และไม่ว่าเราจะก่อกองไฟในสถานที่ที่จัดไว้ หรือจะก่อในเตาของเราเอง โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่ารอบๆกองไฟของเรา ปลอดโปร่งจากสิ่งที่ติดไฟได้ง่าย เช่นเศษใบไม้แห้ง หรือเศษกระดาษ เพื่อลดความเสี่ยงในกรณีที่เกิดลดกระโชกทำให้เปลวไฟของเรากระเด็นออกนอกพื้นที่ก่อกองไฟ

4. เลือกใช้ฟืนอย่างมีสติ

มีคำแนะนำในหลีกเลี่ยงการใช้ฟืนจากต้นไม้ที่ยังตั้งเป็นต้นอยู่แต่สภาพดูเหมือนต้นไม้ที่ตายแล้ว เพราะว่าต้นไม้ตายแล้วเหล่านี้ ยังมีประโยชน์สำหรับสัตว์หรือแมลงต่างๆ ที่อาจยังอาศัยอยู่ตามต้นไม้ตายแล้วเหล่านี้ เราอาจเลี่ยงไปเก็บเศษไม้ที่หักและตกลงพื้นแล้วมาใช้แทน หรือเลี่ยงไปใช้ฟืนสำเร็จรูปที่มีขายมาใช้แทน

5. ก่อกองไฟขนาดเล็กไว้ก่อน

เวลาเริ่มต้นก่อกองไฟ ให้ก่อกองเล็ก ๆ ไว้ก่อน เราไม่จำเป็นต้องก่อกองไฟใหญ่เกินจำเป็น เพราะนอกจากจะเปลืองฟืนโดยใช่เหตุแล้ว ยังต้องรอนานกว่าไฟจะดับอีกด้วย ถ้าเราง่วงไปก่อน อาจเป็นอันตรายได้

ถ้าต้องการแคมป์ไฟเพื่อสร้างบรรยากาศ นั่นหมายถึงเราต้องการเปลวไฟ มากกว่าต้องการควัน การใช้ฟืนขนาดใหญ่ๆ จะก่อให้เกิดควันมากกว่าฟืนท่อนขนาดเล็ก ฟืนใหญ่ๆ ก็ยังดับได้ยากกว่าอีกด้วย ขนาดของฟืนที่แนะนำก็คือไม้ท่อนเล็กๆ ขนาดประมาณ 2-3 นิ้ว จะติดไฟได้ง่ายกว่า เปลวไฟยังสว่างกว่า และยังดับได้ง่ายกว่าอีกด้วย

6. หลีกเลี่ยงการใช้เคมีเพื่อจุดไฟ

แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเพื่อช่วยจุดไฟ (เช่นพวกน้ำมันไฟแช็ค น้ำมันเบนซิล ฯลฯ) เพราะว่าพวกนี้อาจทำให้เกิดการระเบิดหรือการลุกพรึ่บของกองไฟได้

7. คุมเปลวไฟให้อยู่ในโอวาท

พยายามหลีกเลี่ยงการโยนพวกใบไม้แห้ง หรือเศษกระดาษ หรือวัสดุอื่นใดที่เป็นชิ้นเล็ก ๆ และปลิวได้ง่าย เข้าใส่ในกองไฟ เพราะเชื้อเพลิงเหล่านี้มีความเบา และอาจปลิวออกได้เมื่อมีลมพัดมา

8. ดับไฟอย่างปลอดภัย

อันดับแรกควรปล่อยให้ฟืนไหม้หมดจนกลายเป็นขี้เถ้า ดูให้แน่ใจว่าไม่หลงเหลือฟืนที่ยังเป็นชิ้น ๆ เพราะฟืนเหล่านี้อาจกลับมาติดไฟได้ใหม่ ตอนเราออกจากพื้นที่ไปแล้ว

หลังจากที่ฟืนกลายเป็นขี้เถ้าแล้ว ให้ใช้น้ำราดขี้เถ้าให้เปียก แล้วก็หาไม้มาคนๆ เพือให้ขึ้เถ้าเปียกทั่วถึงกัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีไฟลุกติดขึ้นมาใหม่ได้ อันดับสุดท้าย ก็ตรวจสอบอีกรอบว่าไม่มีฟืนก้อนไหนหลงเหลือหรือมีความร้อนเหลืออยู่ครับ

เรื่อง : กติกา สายเสนีย์
ภาพ : Book Book