ทริปที่ผมไปกางเต็นท์ที่ จุดกางเต็นท์น้ำตกผาตาด เกิดขึ้นเพราะหัวใจเรียกร้องให้ไปตั้งแคมป์แทบจะทุกครั้งที่เจอวันหยุดยาว คราวนี้เราเลยลองไปที่ที่ผมไม่เคยไปบ้าง เมื่อเพื่อนๆ มาชวนให้ไปแจมแคมป์ที่น้ำตกผาตาด จังหวัดกาญจนบุรี เลยขอไปลองบ้างสักที เพราะเพื่อนๆ ขายว่าน้ำตกผาตาดอยู่ด้านหลังแคมป์ของเราเลย นอนฟังเสียงน้ำตกไปเลยทั้งคืน

การเดินทางไป จุดกางเต็นท์น้ำตกผาตาด

น้ำตกผาตาด อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนคริทร์ จังหวัดกาญจนบุรี โดยใช้ระยะเวลาเดินทางจาก กทม. ไปยังจุดกางเต็นท์น้ำตกผาตาดประมาณ 4-5 ชั่วโมงโดยการขับรถ หากขับจากสยามพารากอน ใจกลางเมืองกรุงเทพ (ระยะทางประมาณ 260 กิโลเมตร) แต่ผมลองขับจริงๆ แล้วรวมพักระหว่างทาง ก็ใช้เวลาไปเกิน 5 ชั่วโมงครับ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเร็วเดินทางของแต่ละท่านครับ รถเก๋งสามารถเข้าไปได้ถึงลานจอดรถ เส้นทางเป็นถนนราดยางจนถึงที่ทำการจุดกางเต็นท์น้ำตกผาตาดเลยครับ

ค่าบริการในการเข้าชมอุทยาน

สำหรับค่าบริการในการเข้าอุทยานแห่งชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาทต่อคน เด็ก 50 บาทต่อคน ส่วนชาวต่างชาติจะเสียค่าบริการผู้ใหญ่ 200 บาทต่อคนและเด็กที่ 100 บาทต่อคน ส่วนค่ากางเต็นท์รอบนี้จำไม่ได้จริงๆ ครับ พอดีไปกัน 20 กว่าคนรวมเด็กๆ เพื่อนผมเป็นคนจ่ายไปรวมทั้งหมด เลยแยกไม่ถูกว่าแต่ละคน คนละกี่บาท แต่ก็เป็นไปตามราคามาตรฐานของอุทยานแห่งชาติในไทย

ลานกางเต็นท์ น้ำตกผาตาด

ที่น้ำตกผาตาด จะมีลานกางเต็นท์ขนาดกำลังเหมาะ รองรับได้หลายสิบเต็นท์ โดยเป็นลานพื้นหญ้ากว้างตรงกลาง และล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่สามด้าน และเป็นด้านน้ำตกอีกหนึ่งด้าน มีเสียงน้ำตกและลำธารดังตลอดวันตลอดคืน หากใครนอนหลับยากหากมีเสียงดัง ก็อย่าลืมพกที่อุดหูไปด้วยนะครับ สำหรับพื้นที่ลานกางเต็นท์ เป็นพื้นที่เนินขึ้นๆลงๆ ต้องเลือกจุดกางเต็นท์เอาเองให้ได้พื้นที่ราบเพื่อให้นอนได้สบาย ตัวไม่เอียงครับ

ไฟฟ้า

ที่ลานกางเต็นท์น้ำตกผาตาด มีไฟฟ้าสำหรับส่วนกลาง ก็คือไฟฟ้าในห้องน้ำ และไฟฟ้าสำหรับไฟให้แสงสว่างที่ลานกางเต๊นท์ของอุทยาน โดยไฟนี้จะเปิดตลอดคืน ไม่ได้ดับเป็นเวลา แต่ไม่มีปลั๊กไฟสำหรับลากไปใช้ที่เต็นท์ดังนั้นโปรดเตรียมแบตเตอรี่ไปเองหากต้องการใช้ไฟ

ร้านค้าสวัสดิการ

สำหรับร้านค้าสวัสดิการที่ จุดกางเต็นท์น้ำตกผาตาด จะมีบริการขายอาหาร ที่เห็นๆ ก็เป็นอาหารตามสั่ง ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ไส้กรอก และพวกของแห้งต่าง ๆ เช่นมาม่า ซึ่งจะมีน้ำร้อนให้บริการด้วย แล้วก็มีน้ำอัดลมแบบขวดแก้ว น้ำดื่มจำหน่าย แต่ร้านค้าสวัสดิการเปิดทำการตามเวลาปกติ น่าจะประมาณ 8 โมงเช้า แต่ตอนเย็น ๆ เช่น 4 โมงเย็นนี่อาหารจะหมดแล้ว ใครคาดหวังมื้อเย็นจากร้านค้าสวัสดิการ คงต้องวางแผนล่วงหน้าครับ

ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ

สำหรับห้องน้ำที่น้ำตกผาตาด มีห้องน้ำอยู่สองอาคาร ค่อนข้างเก่าเหมือนกัน มีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดห้องน้ำในช่วงเช้า ที่ผมเห็นคือ ห้องอาบน้ำ ก็จะอยู่ในห้องส้วมด้วยเลย คือมีโถส้วมแบบนั่งยอง และมีฝักบัวให้อาบน้ำ ส่วนถังน้ำสำหรับตักราดส้วมค่อนข้างไม่น่าใช้ คือมีตะกรันดูไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ ฝักบัวอาบน้ำจะน้ำไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ จำนวนห้องน้ำที่ผมเช็คดูจะใช้งานไม่ได้ครบทุกห้อง บางห้องสกปรกมากจนไม่กล้าเข้า บางห้องฝักบัวใช้งานไม่ได้ ถ้าใครติดเรื่องห้องน้ำ ผมว่าที่น้ำตกผาตาดนี่น่าจะไม่ถูกใจคุณเท่าไหร่ ผมเห็นมีหลายเต็นท์เอาเต็นท์ห้องน้ำมาเอง บางมื้อผมอาศัยเดินไปแช่น้ำตก แทนการอาบน้ำ ก็สดชื่นดีครับ

ที่จอดรถ

ที่จอดรถสำหรับคนที่มากางเต็นท์ จะจัดให้อยู่ด้านข้างลานกางเต็นท์ แต่มีลำธารคั่นระหว่างที่จอดรถกับที่กางเต็นท์ ดังนั้นเวลาขนของไปตั้งแคมป์ต้องยกเดินข้ามสะพานไปนะครับ ไม่สามารถนำรถไปจอดข้างๆเต็นท์แล้วขนของลงได้ แนะนำให้มีรถเข็นติดไปด้วย ชีวิตจะดีขึ้นอีกเยอะครับ

กิจกรรมที่น้ำตกผาตาด

ที่นี่มีน้ำตกทั้งหมดสามชั้น โดยชั้นแรกอยู่ห่างลานกางเต็นท์แค่ 50 เมตร และเดินขึ้นไปดูน้ำตกชั้นสองกับชั้นสามได้ภายในอึดใจเดียว ปริมาณน้ำตอนที่ผมไปเที่ยว (กลางเดือนตุลาคม) มีปริมาณน้ำที่เยอะค่อนข้างสมบูรณ์ สวยงามทีเดียว ตัวน้ำตกเป็นน้ำตกแนวน้ำตื้น ๆ เล่นน้ำได้สะดวก ดูไม่อันตรายสำหรับเด็กๆมากเท่าไหร่ น้ำตกผาตาดจะมีคนมาเที่ยวทั้งคนที่อยู่ในลานกางเต็นท์เอง และคนที่มาเที่ยวน้ำตกอย่างเดียวแบบไปกลับ หากใครที่พักในลานกางเต็นท์ (ทางอุทยานมีบ้านพักให้เช่าเช่นกัน) สามารถเลือกเดินไปเล่นน้ำตกตั้งแต่ตอนเช้าก่อนแปดโมง หรือไปตอนเย็นเช่นตอน 5 โมงเย็น ก็จะมีคนน้อยมาก เล่นน้ำสะดวก สวยงามแบบไม่มีคนครับ

จุดกางเต็นท์น้ำตกผาตาด เหมาะกับใครบ้าง

เหมาะกับคนที่ยอมขับรถจาก กทม เกินกว่า 4 ชั่วโมง และมองหาลานกางเต็นท์ริมน้ำตก ที่นี่ใกล้สุดๆ และคนที่ไม่ติดปัญหาเรื่องห้องน้ำ ของที่นี่ห้องน้ำพอใช้งานได้ แต่ก็ดูไม่ค่อยสะอาดมาก

ภาพถ่ายโดย @mikkienu